"ทำไมถึงเริ่มคั่วกาแฟ?"
เป็นคำถามที่ได้รับอยู่บ่อยครั้ง
วันนี้ผมจะมาเล่าให้ฟัง…
ต้องย้อนไปช่วงปี 2010
โรงคั่วในยุคนั้นจะขายครั้งละ 1000 กรัม
เป็นขั้นต่ำที่สุด ยังไม่รวมค่าส่ง
เราเปิดร้านกาแฟได้ประมาณ 1 ปี
ช่วงนั้นยังเปิดแค่ เสาร์-อาทิตย์
(วันธรรมดาทำงานประจำอยู่)
ขาย 2 วันใช้เมล็ดกาแฟ 500 กรัม
เมล็ดกาแฟที่เหลือ ก็ต้องเอาไปขายอาทิตย์ต่อไป
ทำให้ชอทกาแฟที่ได้คุณภาพไม่เหมือนกัน
คุณภาพต่างกันมากพอสมควร
ขอต่อรองโรงคั่ว ขอซื้อครั้งละ 500 กรัม ก็ยาก
ยุคนั้นโรงคั่วกาแฟมีให้เลือกน้อย
โรงคั่วที่คั่วเมล็ดในแบบที่ผมใช้
ไม่มีใครขายส่งน้อยกว่า 1000 กรัม เลย
จึงเป็นที่มาให้สนใจการคั่วกาแฟเอง
ประกอบกับช่วงนั้นค่าเงินบาทแข็ง
และเครื่องคั่ว Gene Cafe ลดราคา
ในเวปอเมซอนพอดี เลยกดซื้อมา
(ซึ่งเป็นการซื้อผ่านเวปอเมซอนครั้งแรกและครั้งเดียว)
ของมาถึงไทย เจอบวกภาษีอีก 30%
รวมแล้วไม่ต่างจากซื้อของใหม่ในไทยเลย
เครื่อง Gene ใส่สารกาแฟได้สูงสุด 250 กรัม
คั่วเสร็จแล้วจะได้ 200 กรัม
ผมคั่วครั้งละ 3 หม้อ ได้ 600 กรัม
พอสำหรับขาย 2 วัน และเหลือ 100 กรัม เผื่อไว้
หลังจากลาออกมาเปิดขายทุกวัน
ช่วงแรก ผมจะคั่วทุกคืนวันพุธ 12 หม้อ
พอขายดีขึ้น จะคั่วคืนวันอังคารและพฤหัสบดี
หลังๆเริ้มต้องคั่ว 3 คืน/อาทิตย์ และต้องไปซื้อของ
เข้าร้านเองด้วย เริ่มไม่ไหว ต้องมองหาตัวใหญ่ขึ้น
ตอนแรกมองเครื่องเล็กสุดที่ 2 กิโล
แต่มีหลายคนแนะนำให้ไปที่ 5 กิโล เลย
เพื่อความคุ้มค่ามากกว่า ราคาเพิ่มอีกไม่เยอะ
แต่ถ้าซื้อขนาด 5 กิโล ผมคิดว่าต้องคั่วขายด้วยแล้ว
ไม่งั้นไม่คุ้มค่า ตั้งแต่นั้นมาเราเริ่มจริงจังเรื่องการคั่วมากขึ้น
ไม่ได้คั่วเพื่อให้เราใช้เองเท่านั้นอีกต่อไป
ขอบคุณทุกท่านที่อ่านจนจบ
ตอนแรกกะว่าจะเขียนสั้นๆ
แต่อยากลงรายละเอียดเลยยาวไปนิดครับ